นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

บริษัท แอทติจูดสเตย์ จำกัด

 

บริษัท แอทติจูดสเตย์ จำกัด (ต่อไปในนโยบายนี้ เรียกว่า “บริษัท”) ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นเกี่ยวกับท่าน (รวมเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่าบริษัทมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านในการใช้บริการของบริษัท บริษัทขอขอบคุณท่านที่มอบความไว้วางใจให้บริษัทและบริษัทจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยความระมัดระวังและอย่างสมเหตุสมผลเพื่อมอบประสบการณ์และการให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุดเฉพาะให้แก่ท่าน

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ (“นโยบาย”) ใช้บังคับครอบคลุมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าภายใต้การควบคุมของบริษัททั้งภายในโรงแรม เว็บไซต์ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ช่องทางการสื่อสารทางออนไลน์ ตลอดจนช่องทางอื่นๆ ที่ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ตามนโยบายนี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ รายละเอียดตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.blumonkeyhotels.com โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ อย่างไรก็ดี บริษัทขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอผ่านเว็บไซต์หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท

  1. 1. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงหรือโดยอ้อมจากท่าน โดยลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมขึ้นอยู่กับบริบทของการติดต่อสื่อสารและความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท

(1) ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ สัญชาติ ประเทศที่พำนัก วันเกิด สถานภาพทางการสมรส จำนวนสมาชิกในครอบครัวและบุตร อายุของบุตร ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และเอกสารระบุตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน เป็นต้น) รายละเอียดการเข้าเมือง ได้แก่ วันที่เดินทางมาถึงและเดินทางออกประเทศ ลายมือชื่อ เสียง เสียงบันทึก รูปถ่าย ภาพจากกล้องวงจรปิด ป้ายทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นๆ ที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัท

(2) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ทางไปรษณีย์ ข้อมูลการจัดส่ง ที่อยู่สำหรับส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล ไลน์ไอดี (Line ID) บัญชีผู้ใช้งาน Facebook และบัญชีผู้ใช้งานเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ และข้อมูลเพื่อการติดต่ออื่นๆ ที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัท

(3) ข้อมูลการเป็นสมาชิก ได้แก่ รายละเอียดข้อมูลบัญชีสมาชิก หมายเลขบัตรสมาชิก คะแนนสะสม รหัสสมาชิก รหัสลูกค้า ประเภทสมาชิก ประเภทลูกค้า วันและเดือนที่เข้าร่วมหรือสมัครสมาชิก ระยะเวลาการเป็นสมาชิก บัญชีธนาคาร และข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลการเป็นสมาชิกอื่นๆ ที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัท

(4) ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ ข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตหรือข้อมูลทางธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต ประเภทของบัตรเครดิต วันที่ออกบัตร/วันหมดอายุ รอบบิล รายละเอียดบัญชี รายละเอียดและประวัติการชำระเงิน และข้อมูลทางการเงินอื่นๆ ที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัท

(5) ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ข้อมูลการชำระเงินไปยัง/จากท่าน วันที่และ/หรือเวลาที่ชำระเงิน ยอดชำระเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับการขอเงินคืน ยอดเงิน คะแนนสะสม วันที่และสถานที่ที่ซื้อ หมายเลขการซื้อหรือคำสั่งซื้อ วันนัดหมายเข้ารับบริการ ที่อยู่/วันที่และเวลาในการรับหรือจัดส่ง ข้อความตอบรับของผู้รับ ข้อความลงท้ายในอีเมล์ของผู้รับ ข้อมูลการรับประกันสินค้า คำร้องเรียนและข้อเรียกร้อง ข้อมูลการจอง ข้อมูลการเช่า ธุรกรรม ประวัติการทำธุรกรรม สถานที่ สถานะของธุรกรรม ธุรกรรมทางการขายในอดีต สถานะ สถานะการทำธุรกรรม พฤติกรรมการซื้อ และข้อมูลอื่นๆ ของผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านซื้อจากบริษัท

(6) ข้อมูลทางเทคนิค เช่น เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP address) คุกกี้ ที่อยู่ media access control (MAC) ล็อก (log) รหัสอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ single sign-on (SSO) การเข้าสู่ระบบ (login log) ระยะเวลาและสถานที่ที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเพจ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา (time zone setting) และสถานที่ตั้ง ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่นๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม และข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้บนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ

(7) ข้อมูลการใช้งาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาหรือใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของเรา สินค้าในรถเข็น รายการสินค้าที่สนใจ บันทึกการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสินค้าลดราคา การติดตามร้านค้า (follow-shop record) เวลาที่คลิกครั้งสุดท้าย (timestamp of last click) และบันทึกคำถาม-คำตอบ และข้อมูลการใช้งานอื่นๆ

(8) ข้อมูลทางการตลาดและการติดต่อสื่อสาร เช่น ความต้องการของท่านในการรับข้อมูลทางการตลาดจากบริษัท และรูปแบบการติดต่อสื่อสารที่ท่านต้องการ และข้อมูลทางการตลาดและการติดต่อสื่อสารอื่นๆ

(9) ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ศาสนา ข้อมูลสุขภาพหรือสภาพทางร่างกายหรือจิตใจ ข้อมูลทางพันธุกรรม ประวัติทางการแพทย์ และภาวะทุพพลภาพ เป็นต้น

  1. 2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้

(1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านโดยตรงในช่องทางให้บริการต่างๆ เช่น ขั้นตอนการจองห้องพัก การลงทะเบียนห้องพัก การลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจ การจองใช้บริการต่างๆ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมโดยบริษัท เมื่อท่านติดต่อสื่อสารกับบริษัท ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่บริษัทควบคุม

(2) ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากการที่ท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่นๆ ตามสัญญา เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทด้วยคุกกี้ (cookies) หรือจากซอฟท์แวร์บนอุปกรณ์ของท่าน เป็นต้น

ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม (เช่น ผู้ติดต่อฉุกเฉิน เป็นต้น) แก่บริษัท เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลเพื่อการติดต่ออื่นๆ ในกรณีฉุกเฉิน กรุณาแจ้งบุคคลเหล่านั้นให้ทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท

ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของบริษัทอาจเป็นผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการนั้นแก่ท่านได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

  1. 3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการของบริษัทในกิจกรรมดังต่อไปนี้

(1) เพื่อจัดหาและให้บริการแก่ท่าน เพื่อเข้าทำสัญญาและจัดการความสัมพันธ์ตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน เพื่อสนับสนุนและดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ดังกล่าว เพื่อจัดการการจองให้สำเร็จ และเพื่อดำเนินธุรกรรมทางการเงินและบริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน รวมถึงตรวจสอบและการยืนยันและยกเลิกธุรกรรม เพื่อประมวลผลคำสั่งซื้อของท่าน การจัดส่ง การรับสินค้า และการส่งคืนสินค้า การคืนเงินและการเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ

(2) การตลาดและการติดต่อสื่อสาร เพื่อมอบสิทธิพิเศษและโปรโมชั่น ข่าวสาร การลดราคา ข้อเสนอพิเศษ การโฆษณา การแจ้งเตือน ข่าวสาร ข้อมูล การตลาดและการติดต่อสื่อสารต่างๆ เกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท

(3) การลงทะเบียนและการยืนยันตัวตน เพื่อลงทะเบียน ตรวจสอบ ยืนยัน ระบุและ/หรือรับรองท่านหรือตัวตนของท่าน

(4) การทำงานของเว็บไซต์ เพื่อดูแล ดำเนินงาน ติดตาม สังเกตการณ์และจัดการเว็บไซต์เพื่ออำนวยความสะดวกและรับรองให้ท่านมั่นใจว่าเว็บไซต์ทำงานอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพและปลอดภัย  เพื่ออำนวยความสะดวกท่านในการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงแผนงานและเนื้อหาของเว็บไซต์

(5) การปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และ/หรือให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ในกรณีที่มีเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่า บริษัทต้องดำเนินการดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นและเปิดเผยอย่างเคร่งครัดเพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานของรัฐ โดยรวมถึงการให้บริการและการจัดการเรื่องบริการการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT refund) การออกใบกำกับภาษี หรือออกแบบฟอร์มภาษีแบบเต็ม การบันทึกและติดตามการติดต่อสื่อสาร การเปิดเผยข้อมูลให้แก่หน่วยงานที่มีอำนาจจัดเก็บภาษี หน่วยงานกำกับดูแลด้านบริการทางการเงิน และหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่กำกับดูแล และเพื่อการสืบสวนสอบสวนหรือป้องกันอาชญากรรม

(6) การปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท เพื่อปกป้องความมั่นคงปลอดภัยภายในพื้นที่ของบริษัท หรือเพื่อปกป้องความมั่นคงและความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัท เพื่อใช้สิทธิหรือปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทที่จำเป็นและสามารถทำได้ตามกฎหมาย

 

  1. 4.ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทใช้

ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทได้ใช้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล

รายละเอียด

เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการและปฏิบัติตามกฎหมายที่กำกับดูแลบริษัท อาทิ

  • พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547
  • การเก็บรวบรวมข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ตาพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560
  • กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร
  • การดำเนินการตามคำสั่งศาล

เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลอื่น
 ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น เพื่อการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของบริษัทหรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจการภายในของบริษัท เป็นต้น

เป็นการปฏิบัติตามสัญญา

เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการอันเป็นความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท เช่น การจองห้องพัก การเข้าพัก และการจองเข้าใช้บริการต่างๆ ของโรงแรม เป็นต้น

เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การให้บริการแอปพลิเคชันเพื่อเฝ้าระวังโรคระบาดตามนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น

ความยินยอมของท่าน

เพื่อให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีบริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โดยมีการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำการตลาดผ่านการบอกรับข่าวสารของบริษัท หรือเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เป็นไปตามข้อยกเว้น แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เป็นต้น

 

ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือ คัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

  1. 5. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้

ในกรณีที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านการใช้คุกกี้

  1. 6. บุคคลใดบ้างที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ภายใต้วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทข้างต้น บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล

รายละเอียด

หน่วยงานของรัฐที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์สำคัญอื่น (เช่น การดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ เป็นต้น)

หน่วยงานของรัฐผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือมีอำนาจกำกับดูแลหรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่น กรมการปกครอง กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล สำนักงานอัยการ กรมควบคุมโรค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น 

 

  1. 7.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย กฎ และข้อบังคับต่างๆ  อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้นหากมีความจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

  1. 8. ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงพยายามที่จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของท่านด้วยการกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขเปิดเผย หรือทำลายโดยไม่มีสิทธิหรือโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยบริษัทจะตรวจสอบวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล และดำเนินการตามหลักปฏิบัติในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการความปลอดภัยทางกายภาพ

  1. 9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิในการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

(1) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

(2) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากท่านพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

(3) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

(4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้

  • เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัททำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
  • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
  • เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

(5) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท เป็นต้น)

(6) สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดยบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้บริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

(7) สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

  1. 10. รายละเอียดการติดต่อของบริษัท

หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายฉบับนี้ โปรดติดต่อ

(1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ: บริษัท แอทติจูดสเตย์ จำกัด
ที่อยู่: 3 ซอย 3 ถนนพังงา ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
อีเมล: booking_png@blumonkeyhotels.com
(2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ: General Manager
ที่อยู่: 3 ซอย 3 ถนนพังงา ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
อีเมล: